คุณคงเป็นคนหนึ่งที่คิดจะเปิดร้านกาแฟสด และก็คงคิดเหมือนกับอีกหลายคนเช่นกัน ว่าอยากทำธุรกิจส่วนตัว โดยการเปิดร้านกาแฟ ที่แค่ได้ยินชื่อ กลิ่นอันหอมละมุนของเมล็ดกาแฟก็ลอยฟุ้งขึ้นมาในหัว แต่ก็คงมีอีกหนึ่งความคิดที่สำคัญไม่แพ้กันว่า >> “ต้องลงทุนเท่าไหร่ ?” , ร้านกาแฟของเราจะเป็นแบบไหน ? , ร้านกาแฟมีกี่แบบ ? , เมล็ดกาแฟมีกี่สายพันธุ์ , เครื่องทำกาแฟราคาเท่าไหร่ ? และมันคุ้มค่าที่จะเสี่ยงหรือไม่ !!!!
วันนี้เราจะขอมา “แฉ” ทุกเรื่องต้นทุนสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนก้าวเข้ามาในธุรกิจนี้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนเปิดร้านกาแฟในฝันยังไงไม่ให้ตาย
1.เปิดร้านกาแฟสด ต้องใช้เงินลงทุนมากน้อยแค่ไหน?
ขั้นต่ำของเงินลงทุนสำหรับธุรกิจร้านกาแฟสดก็จะอยู่ที่ประมาณเกือบหลักแสน เพราะต้องมีค่าลงทุนในส่วนของชุดอุปกรณ์ วัตถุดิบ และเงินทุนสำหรับหมุนเวียนในร้าน ซึ่งงบประมาณนั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการจะเตรียมงบในการลงทุน ไว้ที่จำนวนเท่าไหร่ และต้องคำนึงด้วยว่างบประมาณที่จะลงทุนนั้นเหมาะกับร้านรูปแบบไหน วิธีการเตรียมความพร้อมสำหรับต้นทุน = เงิน เงิน เงิน แบ่งตามขั้นตอนนี้รับรอง “ธุรกิจในฝัน ไม่มีวันตาย” เมื่อคุณมีเงินทุน และคิดว่าพร้อมสำหรับการทำธุรกิจ ให้คุณแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน” ดังต่อไปนี้
ส่วนที่ 1 คือ เงินสำหรับหมุนเวียนใช้จ่ายภายในร้าน เงินส่วนนี้เรียกได้ว่าเป็นก้อนเงินที่ใหญ่ที่สุด เพราะต้องใช้สำหรับซื้อของเข้าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ส่วนที่ 2 คือ เงินฉุกเฉิน ก็ต้องยอมรับว่าถ้าหากยังไม่มีเงินในส่วนนี้เราไม่แนะนำให้คุณเปิดทำธุริกจใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เพียงทำร้านกาแฟเท่านั้น การทำธุรกิจต้องมีเงินเตรียมไว้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินที่จำเป็นต่างๆ เสมอ เช่น ซ่อมแซมร้าน หรืออุปกรณ์ ในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆ
ส่วนที่ 3 คือ เงินสำรอง / เงินอนาคต เงินส่วนนี้ถ้าได้เบิกถอนออกมาใช้จะถือว่าเป็นเรื่องราวดีดี
2.ทำเล และสไตล์ที่คุณต้องการ
เรื่องของการเลือกทำเล หรือจุดที่คุณจะตั้งร้านนั้น เรียกได้ว่าเป็นตัวกำหนดต้นทุนที่แตกต่างกัน อยู่ที่ความพอใจของเจ้าของธุรกิจ เพราะเงินทุนในส่วนนี้จะต่างกันที่ค่าตกแต่งพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ ค่าอุปกรณ์จะไม่แตกต่างกันมากนัก ซึ่งต้นทุนของการตกแต่งร้านสไตล์ต่างๆ มีดังนี้
◍ สไตล์ลอฟท์ ดีไซน์ดิบ เท่ โดนใจ โชว์ความเปลือย มักนิยมโชว์ระบบการเดินท่อ ,ท่อเดินสายไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อโชว์ความอาร์ต ซึ่งการลงทุนแต่งร้านสไตล์ลอฟท์ จะอยู่ประมาณที่ 8,000 – 12,000 บาท/ตรม. เช่น พื้นที่ร้าน 30 ตรม.x 12,000 = 360,000 บาท รวมอุปกรณ์ทำกาแฟ และของตกแต่งร้านอีกประมาณ 300,000 บาท รวมทั้งหมดประมาณ 660,000 บาท
◍ สไตล์วินเทจ เป็นสไตล์ที่น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ไฮแฟชั่น ผสมผสานความคลาสสิกของยุคก่อน และยุคใหม่ ยิ่งเก่ายิ่ง เน้นสีที่ออกมาดูแล้วสบายตา ค่าทำร้านจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 -13,000 บาท เช่น ร้านขนาด 30 ตรม. x 13,000 = 390,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ทำกาแฟประมาณ 100,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ตกแต่งร้านประมาณ 200,000 (ซึ่งของเก่าบางชิ้นอาจมีราคาสูงมาก หากเป็นของหายาก หรือเลิกผลิตไปแล้ว) รวมค่าใช้จ่ายการทำร้านทั้งหมดประมาณ 690,000 บาท
◍ สไตล์ Garden เอาใจคนรักธรรมชาติเป็นที่สุด จุดเด่นคงหนีไม่พ้นต้นไม้ และสวนหลากหลายสไตล์ ผ่อนคลายไปกับเสียงน้ำตก หรือเสียงใบไม้พริ้วไหว ให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งอยู่ในสวนที่บ้านนั้นเอง ต้นทุนในการทำร้านสไตล์ Garden แบบนี้ การก่อสร้างร้านก็อยู่ที่ประมาณ 9,000 – 12,000 บาท/ตรม. เช่น พื้นที่ร้านขนาด 30 ตรม. x 12,000 บาท = 360,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ทำกาแฟประมาณ 100,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ตกแต่งร้านประมาณ 200,000 + ค่าต้นไม้และอุปกรณ์ในการแต่งสวน 70,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 730,000 บาท
ทำเล
การเลือกทำเลที่ตั้งก็สำคัญ การเลือกทำเลหลักของร้านกาแฟ แบ่งได้ตามแหล่งชุมชนหลักๆ ดังนี้
◍ ออฟฟิศ การเลือกเปิดร้านกาแฟแถวออฟฟิศ หรือย่านสำนักงานออฟฟิศที่มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงาน มีการใส่บริการเสริมฟรี เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร มี WiFi ส่วนค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 10,000 – 60,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับทำเล ซึ่งย่านที่เป็นแหล่งออฟฟิตก็มีหลายที่ เช่น สาทร, สีลม, อโศก , เพลินจิต ,รัชดา ,ชิดลม หรือลาดพร้าว เป็นต้น
◍ สถานศึกษา การตกแต่งร้านอาจจะเน้นไปในแนววินเทจ ดูน่าสนใจ เพราะเป็นแนวที่ชื่นชอบในกลุ่มวัยรุ่น หรือจะเพิ่มเติมด้วยการตกแต่งบรรยากาศให้มีมุมถ่ายรูป ส่วนค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 6,000 – 40,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับทำเล หากต้องการราคาเช่า ไม่สูงมาก ควรเลือกมหาวิทยาลัยที่อยู่ตามชานเมือง และควรเลือกทำเลที่ใกล้หอพักนักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างดี
◍ Community Mall ทำเลนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเป็นศูนย์รวมของ เหมาะสำหรับการทำร้านกาแฟที่มีสไตล์ร้านที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ซึ่ง Community Mall เปิดใหม่มากมายหลายแห่ง ค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 10,000 – 60,000 บาท/เดือน
◍ รถไฟฟ้า BTS / MRT เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ได้รับความสนใจค่อนข้างสูง เพราะมีผู้คนคนรผ่านไปผ่านมามากถึง 39,600 – 112,600 คน/วัน หากสนใจควรทำร้านที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งราคาเช่าพื้นที่ก็ขึ้นอยู่กับทำเลว่าใกล้กับแหล่งธุรกิจมากแค่ไหน มีราคาตั้งแต่ประมาณ 10,000 – 100,000 บาท / เดือน
ต้นทุนอุปกรณ์ร้านกาแฟ
หมดหลายแสนไปแล้วหลายคนกับการซื้อเครื่องชงกาแฟ การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ราคาแงพนั้น เป็นสิ่งถูกต้องที่สุดเพราะจะได้คุณภาพน้ำกาแฟที่ดี แต่ถ้าซื้อเครื่องขนาดสองแสนกว่าบาทมาชงขายแก้วละ 20 - 35 บาท ปกติราคานี้หักค่าวัตถุดิบ ไม่รวมค่าเช่า ค่าพนักงาน จะมีกำไรประมาณ 10 กว่าบาท เอาไปหารค่าเครื่องเอาว่าเมื่อไหร่จะคืนทุน ดังนั้นวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจและกลุ่มลูกค้า เช่น ถ้าจะขายสัก 30 - 35 บาท ก็เครื่องชงสัก 5 หมื่นก็ได้ ถ้าจะขายสัก 40 - 50 บาทขึ้นไปก็สามารถใช้เครื่องเป็นแสนได้เลย เพราะอย่างน้อยคุณคงมีเงินค่าแต่งร้านอีกหลายแสนอยู่
สิ่งสำคัญที่เป็นองค์ประกอบหลักในการทำธุรกิจ คือ เจ้าของร้านโดยเฉพาะถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เจ้าของเป็นผู้บริหารเอง จะต้องมีความสุขกับการค้าขาย มีความมุ่งมั่นเป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ในการที่จะทำธุรกิจ มีความพร้อม และความอดทนที่จะเป็นนายคนอื่น และมีเงินลงทุนที่เพียงพอต่อการทำธุรกิจ